การตรวจคัดกรองและการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านม: เพิ่มโอกาสหายและรักษาเต้านมไว้ได้
มะเร็งเต้านมยังคงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทยและทั่วโลก การต้องสูญเสียเต้านมไปจากโรคร้ายเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง แต่เราไม่จำเป็นต้องรอให้โรคเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงรักษา ในเมื่อเราสามารถตรวจพบและจัดการได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะแรกจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มโอกาสการหายขาดและรอดชีวิต การตรวจเต้านมด้วยตนเองอาจทำให้คลำพบก้อนได้ แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ เช่น การตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการและคลำไม่พบก้อน
ความสำคัญของการตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์
เนื่องจากมะเร็งเต้านมระยะแรกมักไม่มีอาการแสดง การตรวจคัดกรองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
-
ดิจิทัลแมมโมแกรม (Digital Mammography): เป็นเทคโนโลยีการตรวจทางรังสีที่มีประสิทธิภาพสูงในการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะแรกเริ่ม โดยเฉพาะการตรวจหา “หินปูน” หรือ “Microcalcifications” ซึ่งอาจเป็นสัญญาณแรกของมะเร็งบางชนิดที่ยังไม่เป็นก้อนและคลำไม่พบ (Houssami et al., 2011) ภาพที่ได้มีความละเอียดและความคมชัดสูง ช่วยให้รังสีแพทย์สามารถระบุตำแหน่งและวินิจฉัยความผิดปกติได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าการตรวจจะมีการใช้รังสี แต่เป็นปริมาณที่น้อยและปลอดภัย
-
อัลตราซาวด์เต้านม (Breast Ultrasound): เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสร้างภาพของเนื้อเยื่อเต้านม มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยจำแนกความผิดปกติที่พบจากแมมโมแกรม ว่าเป็นถุงน้ำ (Cyst) หรือก้อนเนื้อ (Solid Mass) (Berg et al., 2012) นอกจากนี้ อัลตราซาวด์ยังมีบทบาทสำคัญในการตรวจคัดกรองเสริมสำหรับผู้หญิงที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น (Dense Breasts) ซึ่งแมมโมแกรมเพียงอย่างเดียวอาจมีประสิทธิภาพลดลง (Ohuchi et al., 2016)
การตรวจด้วยดิจิทัลแมมโมแกรมควบคู่กับอัลตราซาวด์จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการตรวจคัดกรองให้สูงสุด ช่วยให้ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้นและนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ทางเลือกการผ่าตัด: ไม่จำเป็นต้องตัดเต้านมทิ้งเสมอไป
เมื่อตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดเสมอไป ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาที่สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งออกไปพร้อมกับการรักษาเต้านมเดิมไว้ได้
-
การผ่าตัดแบบสงวนเต้า (Breast-Conserving Surgery – BCS): เป็นการผ่าตัดนำเฉพาะก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อปกติบางส่วนโดยรอบออกไป งานวิจัยขนาดใหญ่จำนวนมากยืนยันแล้วว่า การผ่าตัดแบบสงวนเต้าตามด้วยการฉายรังสี ให้ผลการรอดชีวิตไม่แตกต่างจากการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น (Veronesi et al., 2002; Fisher et al., 2002)
-
ศัลยกรรมตกแต่งเพื่อรักษาทรงเต้านม (Oncoplastic Surgery): เป็นเทคนิคขั้นสูงที่ผสมผสานหลักการของศัลยกรรมมะเร็งเข้ากับศัลยกรรมตกแต่ง โดยศัลยแพทย์จะออกแบบการลงแผลและเคลื่อนย้ายเนื้อเยื่อเต้านมส่วนที่เหลืออยู่เพื่อปิดช่องว่างและรักษารูปร่างของเต้านมให้สวยงามดังเดิม ป้องกันการบิดเบี้ยวหรือเสียรูปทรงหลังการผ่าตัด ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก (Clough et al., 2010)
การสร้างเต้านมใหม่: คืนความมั่นใจหลังการผ่าตัด
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด (Mastectomy) ก็สามารถทำการผ่าตัดสร้างเต้านมใหม่ (Breast Reconstruction) ได้ทันทีในคราวเดียวกัน ซึ่งช่วยลดผลกระทบทางด้านจิตใจและทำให้ผู้ป่วยฟื้นคืนความมั่นใจได้เร็วขึ้น (Al-Ghazal et al., 2013) โดยมี 2 วิธีหลักคือ:
-
การใช้เต้านมเทียม (Implant-based Reconstruction): เป็นการใส่เต้านมเทียมหรือซิลิโคนเข้าไปแทนที่เนื้อเต้านมเดิม เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน และฟื้นตัวเร็ว (McCarthy et al., 2008)
-
การใช้เนื้อเยื่อของตนเอง (Autologous Reconstruction): เป็นการย้ายเนื้อเยื่อส่วนอื่นของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อและไขมันจากหน้าท้อง (TRAM/DIEP flap) หรือจากบริเวณหลัง (Latissimus Dorsi flap) มาสร้างเป็นเต้านมใหม่ วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงทนถาวร (Roostaeian et al., 2014) แม้จะใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าและมีแผลผ่าตัดเพิ่ม แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับการฉายรังสี
การผ่าตัดสร้างเต้านมใหม่พร้อมกับการตัดเต้านมออกใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถพักฟื้นในโรงพยาบาลเพียง 5-7 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ด้วยความมั่นใจ
เอกสารอ้างอิง
-
Al-Ghazal, S. K., Fares, S., & Bains, S. (2013). The psychological impact of immediate versus delayed breast reconstruction. Breast Cancer: Basic and Clinical Research, 7, 41–47. https://doi.org/10.4137/BCBCR.S11946
-
Berg, W. A., Blume, J. D., Cormack, J. B., Mendelson, E. B., Lehrer, D., Böhm-Vélez, M., … & ACRIN 6666 Investigators. (2012). Combined screening with ultrasound and mammography vs mammography alone in women at elevated risk of breast cancer. JAMA, 307(13), 1396–1404. https://doi.org/10.1001/jama.2012.388
-
Clough, K. B., Lewis, J. S., Couturaud, B., Fitoussi, A., Nos, C., & Falcou, M. C. (2010). Oncoplastic surgery for breast cancer. Annals of Surgical Oncology, 17(Suppl 3), 321-329. https://doi.org/10.1245/s10434-010-1241-1
-
Fisher, B., Anderson, S., Bryant, J., Margolese, R. G., Deutsch, M., Fisher, E. R., … & Wolmark, N. (2002). Twenty-year follow-up of a randomized trial comparing total mastectomy, lumpectomy, and lumpectomy plus irradiation for the treatment of invasive breast cancer. New England Journal of Medicine, 347(16), 1233-1241. https://doi.org/10.1056/NEJMoa022152
-
Houssami, N., Skaane, P., & Zackrisson, S. (2011). Digital mammography: an update. Breast Cancer Research, 13(4), 218. https://doi.org/10.1186/bcr2898
-
McCarthy, C. M., Pusic, A. L., Disa, J. J., Cordeiro, P. G., & Mehrara, B. J. (2008). A systematic review of patient satisfaction with breast reconstruction. Journal of Plastic, Reconstructive & Aesthetic Surgery, 61(8), 882-891. https://doi.org/10.1016/j.bjps.2007.12.030
-
Ohuchi, N., Suzuki, A., Sobue, T., Kawai, M., Yamamoto, S., Zheng, Y. F., … & J-START investigator groups. (2016). Sensitivity and specificity of mammography and adjunctive ultrasonography to screen for breast cancer in the Japan Strategic Anti-cancer Randomized Trial (J-START): a randomised controlled trial. The Lancet, 387(10016), 341-348. https://doi.org/10.1016/S0140-6736(15)00774-6
-
Roostaeian, J., Pavone, L. A., Da Lio, A., & Crisera, C. (2014). Immediate placement of implants in breast reconstruction: a review. International Journal of Surgical Oncology, 2014, 674761. https://doi.org/10.1155/2014/674761
-
Veronesi, U., Cascinelli, N., Mariani, L., Greco, M., Saccozzi, R., Luini, A., … & Salvadori, B. (2002). Twenty-year follow-up of a randomized study comparing breast-conserving surgery with radical mastectomy for early breast cancer. New England Journal of Medicine, 347(16), 1227-1232. https://doi.org/10.1056/NEJMoa020989
-
American Cancer Society. (2024). Breast Reconstruction Surgery. Retrieved from https://www.cancer.org/cancer/types/breast-cancer/treatment/surgery-for-breast-cancer/breast-reconstruction-surgery.html (แม้ว่านี่จะไม่ใช่งานวิจัยโดยตรง แต่เป็นแหล่งข้อมูลสรุปที่น่าเชื่อถือและอ้างอิงจากงานวิจัยจำนวนมาก เหมาะสำหรับการให้ข้อมูลภาพรวม)
