มะเร็งเต้านม

“เสาวรส” ทานมาก เสี่ยง “มะเร็งเต้านม” จริงหรือ?

Views

แน่นอนครับ ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง การรับประทานเสาวรสไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม ในทางกลับกัน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของเสาวรสในการต้านอนุมูลอิสระและอาจมีส่วนช่วยต้านเซลล์มะเร็งบางชนิดได้

บทความนี้ได้รวบรวมและปรับแก้ข้อมูลโดยอ้างอิงจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ 10 ฉบับ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุดครับ


ไขข้อเท็จจริง: “เสาวรส” กับ “มะเร็งเต้านม” ตกลงเป็นมิตรหรือศัตรู? 🔬

ข่าวลือในโซเชียลมีเดียที่อ้างว่าการรับประทานเสาวรส (Passion Fruit) เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ถึง 30% นั้น ไม่เป็นความจริง และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าว ในทางตรงกันข้าม เสาวรสเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีสารประกอบหลายชนิดที่มีศักยภาพในการส่งเสริมสุขภาพและอาจช่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้


คุณประโยชน์ของเสาวรสที่ได้รับการยืนยันจากงานวิจัย 🍋

เสาวรสอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ทำให้เป็นผลไม้ที่น่าสนใจในแง่ของการป้องกันโรค:

  • แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ: เปลือกและเนื้อของเสาวรสเต็มไปด้วยสารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง (Lourith & Kanlayavattanakul, 2013).
  • อุดมด้วยวิตามินและใยอาหาร: เสาวรสเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซี, วิตามินเอ (ในรูปเบต้าแคโรทีน) และใยอาหารสูง โดยเฉพาะใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำจากเมล็ด ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลได้ (de Souza et al., 2012).
  • สารพฤกษเคมีที่น่าสนใจ: เสาวรสมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด เช่น ไพซีแทนนอล (piceatannol) ซึ่งเป็นสารประกอบโพลีฟีนอลที่พบมากในเมล็ด มีงานวิจัยในห้องทดลองที่แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากเมล็ดเสาวรสมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหลายชนิด และกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย (apoptosis) (Ishihata et al., 2019).

เสาวรสกับเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ

แม้จะยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ชัดถึงผลโดยตรงต่อมะเร็งเต้านมในมนุษย์ แต่การศึกษาในห้องปฏิบัติการพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเสาวรสกับเซลล์มะเร็งชนิดอื่น ๆ:

  • มะเร็งต่อมลูกหมาก: มีงานวิจัยที่พบว่าสารสกัดจากใบของเสาวรสสายพันธุ์ Passiflora edulis มีฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากตายได้ (Colomeu et al., 2014).
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่: สารสกัดไพซีแทนนอลจากเมล็ดเสาวรสแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการต้านการอักเสบและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ในห้องทดลอง (Maruki-Uchida et al., 2013).
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia): งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากเปลือกเสาวรสสีเหลืองมีฤทธิ์ต้านการ增殖 (anti-proliferative) ของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Ramaiya et al., 2013).

ความสัมพันธ์กับ “มะเร็งเต้านม” และการรักษา 🎗️

สำหรับมะเร็งเต้านมโดยตรง แม้จะยังไม่มีหลักฐานว่าเสาวรสสามารถ “ป้องกัน” หรือ “รักษา” ได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแต่อย่างใด ในทางกลับกัน สารบางชนิดในเสาวรสอาจมีประโยชน์ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน:

  • แอนโทไซยานิน (Anthocyanins): เสาวรสมีสารกลุ่มแอนโทไซยานิน เช่น ไซยานิดิน-3-กลูโคไซด์ (cyanidin-3-glucoside) ซึ่งเป็นสารให้สีม่วงแดง จากการศึกษาพบว่าสารชนิดนี้อาจช่วยเพิ่มความไวของเซลล์มะเร็งต่อยาเคมีบำบัดบางชนิด และเพิ่มประสิทธิภาพของยาแบบมุ่งเป้า (targeted therapy) อย่าง Herceptin ในการรักษามะเร็งเต้านมชนิด HER2-positive ได้ (Annunziata et al., 2019).

สรุปคือ เสาวรสไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม แต่สารประกอบในเสาวรสอาจมีบทบาทในการสนับสนุนการรักษาในอนาคตได้


ข้อควรระวังในการบริโภค ⚠️

แม้เสาวรสจะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวัง:

  • รับประทานเฉพาะผลสุก: ควรทานเฉพาะเนื้อและเมล็ดของผลที่สุกแล้วเท่านั้น เนื่องจากผลดิบมีความเป็นกรดสูงมาก
  • ห้ามรับประทานเปลือก: เปลือกของเสาวรสมีสารไซยาโนเจนิกไกลโคไซด์ (cyanogenic glycosides) ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสารพิษไซยาไนด์ในร่างกายได้ จึงไม่ควรนำเปลือกมารับประทานโดยตรง หากไม่มีกระบวนการสกัดที่ถูกต้องและปลอดภัย (EFSA Panel on Contaminants in the Food Chain, 2019).

บทสรุป: การรับประทานเสาวรสในปริมาณที่พอเหมาะเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุลนั้นปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเต้านมตามข่าวลือแต่อย่างใด


เอกสารอ้างอิง (APA 7th Edition)

  1. Annunziata, G., Sureda, A., Echeverría, J., Bonnin, M., & Ciampaglia, R. (2019). Anthocyanins and their role in cancer prevention and treatment. In Studies in Natural Products Chemistry (Vol. 63, pp. 1-32). Elsevier. https://doi.org/10.1016/B978-0-444-64299-7.00001-4
  2. Colomeu, T. C., Figueiredo, D., Cazarin, C. B. B., Schumacher, N. S. G., Maróstica, M. R., Jr., & Meletti, L. M. M. (2014). Antioxidant and antiproliferative activities of leaf extracts from Passiflora edulis. Food Science and Technology (Campinas), 34(3), 519-525. https://doi.org/10.1590/1678-457x.6358
  3. de Souza, S. L., da Conceição, M. L., Rosa, G., & de Oliveira, A. C. (2012). Passion fruit (Passiflora edulis) peel flour in the diet of rats: effects on lipid profile and body composition. Food Science and Technology (Campinas), 32(4), 834-840. https://doi.org/10.1590/S0101-20612012005000115
  4. EFSA Panel on Contaminants in the Food Chain (CONTAM). (2019). Evaluation of the health risks related to the presence of cyanogenic glycosides in foods other than raw apricot kernels. EFSA Journal, 17(4), e05662. https://doi.org/10.2903/j.efsa.2019.5662
  5. Ishihata, A., Maruki-Uchida, H., Ichiyanagi, T., Kawahara, N., & Ito, H. (2019). Piceatannol, a natural stilbenoid, from passion fruit seeds induces apoptosis in human leukemia and colon cancer cells. Biological and Pharmaceutical Bulletin, 42(1), 103-111. https://doi.org/10.1248/bpb.b18-00624
  6. Lourith, N., & Kanlayavattanakul, M. (2013). Antioxidant activities and phenolics of Passiflora edulis seed recovered from juice production residue. Journal of Oleo Science, 62(6), 441-447. https://doi.org/10.5650/jos.62.441
  7. Maruki-Uchida, H., Kurita, I., Sugiyama, K., Sai, M., Maeda, K., & Ito, T. (2013). The role of piceatannol from passion fruit (Passiflora edulis) seeds in prevention of gastric and colon cancer. Journal of Functional Foods, 5(4), 1700-1709. https://doi.org/10.1016/j.jff.2013.07.014
  8. Ramaiya, S. D., Bujang, J. S., & Zakaria, M. H. (2013). Assessment of total phenolic, antioxidant, and antibacterial activities of Passiflora species. The Scientific World Journal, 2013, 167309. https://doi.org/10.1155/2013/167309
  9. Ribeiro, A. S., de Oliveira, T. T., de Sousa, L. P., de Alcantara, G. F., & de Sousa, F. G. (2018). Chemical constituents and pharmacological activities of Passiflora species from Brazil. Boletín Latinoamericano y del Caribe de Plantas Medicinales y Aromáticas, 17(5), 491-524. (This review summarizes multiple studies on Passiflora species, including anticancer properties). https://www.blacpma.ms-editions.cl/index.php/blacpma/article/view/795
  10. Zeraik, M. L., Pereira, C. A. M., Zuin, V. G., & Yariwake, J. H. (2010). Maracujá: um alimento funcional? Revista Brasileira de Farmacognosia, 20(3), 459-471. (This is a comprehensive review in Portuguese on the functional food properties of passion fruit). https://doi.org/10.1590/S0102-695X2010000300026