โรคกระเพาะอาหาร

ปวดท้องแบบไหนถึงเป็นโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

Views

อาการปวดท้องสามารถเกิดขึ้นกับ เราได้ทุกเมื่อ และ เป็นได้ ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องเล็กๆ อย่าง ปวดท้องเพราะท้องเสีย ปวดท้องเพราะท้องอืด หรือปวดท้องเพราะหิวข้าว แต่อาการปวดท้องก็มีอยู่หลายประเภทที่สามารถบ่งบอกได้ว่าอาการปวดท้องแบบไหน เป็นโรคอะไร โรคที่คนมักถึงทุกครั้งเมื่อมีอาการปวดท้อง ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “โรคกระเพาะอาหารอักเสบ” โรคนี้เป็นอย่างไร มีอาการปวดท้องแบบไหนที่บ่งบอกถึงโรคนี้ได้อย่างชัดเจน มาศึกษากัน

กระเพาะอาหารอักเสบ คืออะไร?

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือที่นิยมเรียกโดยทั่วไปว่าเป็นโรคกระเพาะ เกิดจากอาการอักเสบ หรือระคายเคือง ตรงลำคอ ปวดท้อง เฉียบพลัน ของเยื่อบุในกระเพาะอาหาร เป็นเพราะชั้นเยื่อเมือกเคลือบกระเพาะอาหารที่เอาไว้ป้องกันกรดจากน้ำย่อยทำลายเยื่อบุในกระเพาะอาหารน้อยลง จากการที่กระเพาะอาหารอยู่ในภาวะอักเสบ จึงทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกกรดทำลายจนมีแผลในกระเพาะอาหาร เกิดอาการอักเสบมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดอาการปวดแสบท้อง
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  เรื้อรังเป็นยาวนาน จนอาจกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้


สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคกระเพาะอาหาร แต่มีข้อสันนิษฐานหลายประการ เช่น
– การติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ เอช ไพโลไร (Helicobacter pylorior หรือ H. pylori) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้ในอาหาร และน้ำดื่ม
– การรับประทานในกลุ่มยาต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวด (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs)
– การติดเชื้อราบางประเภท
– การสูบบุหรี่
– การดื่มแอลกอฮอล์ และ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น : กาแฟ, น้ำอัดลม
– ทานอาหาร รถจัดเกินไป ทานของมักดอง อาหารมันจนเกินไป
– ระบบภูมิคุ้มกันตนเองบกพร่องจากโรคบางชนิด เช่นโรคโครห์น (Crohn’s disease) โรคซาคอยโดซิส (Sarcoidosis)
– ภาวะอักเสบเรื้อรังทางกระเพาะอาหารอื่นๆ เป็นต้น

อาการของโรคกระเพาระอาหารอักเสบ มีอาการแบบไหน

โดยทั่วไปแล้วอาการที่แสดงออกได้อย่างชัดเจน คืออาการปวดท้อง โดยลักษณะการปวดท้องจะแตกต่างจากการปวดท้องตามปกติ ได้เช่น :
1.ปวดท้องแบบจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอึด  เรอบ่อย เรอมีกลิ่นเหม็นเปี้ยว จุกตามลำคอ
2.ปวดท้องส่วนบน (เหนือสะดือ) และอาจปวดร้าวไปถึงหลัง หลือ ปวดตรงบ่าไหร่
3.อาจปวดท้องด้วย และมีอาการอื่นๆ ด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย
4.มักมีอาการปวดในช่วงก่อน หรือหลังรับประทานอาหาร ที่เรียกกันว่า หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด
5.นอกจากนี้ ในบางรายยังอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด หรือมีสีดำเข้มผิดปกติ ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างหนัก ควรรีบพบแพทย์ทันที


อันตรายจากภาวะแทรกซ้อนของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

หากปล่อยให้อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบแย่ลง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร และกระเพาะอาหารอุดตัน  กระเพาะอาหารรั่ว มะเร็งหลอดอาหาร หรือ เป็นมะเร็งลำไส้ได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายจนถึงชีวิต

การป้องกันโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

1.รักษาสุขอนามัยต่ออาหาร น้ำดื่ม รวมไปถึงภาชนะบรรจุอาหาร และมือที่หยิบจับอาหารให้สะอาด เพื่อลดการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ที่มักพบได้จากการปะปนในอาหาร และน้ำดื่ม
2. ทานอาหารปรุงสุก ในปริมาณที่ไม่มาก และไม่น้อยเกินไป
3.ไม่ทานอาหารรสจัดมากจนเกินไป หรือทานอาหารรสจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยออกมามากเกินไป จนเกิดอาการระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหารได้
4.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้กระเพาะอาหารมีความเสี่ยงต่อการอักเสบของแผล เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน สูบบุหรี่ และภาวะเครียด เป็นต้น
5.ไม่ควรซื้อยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหารหรือยาในกลุ่มลดอาการปวดรับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล

ขอขอบคุณข้อมูล:herbalap.com

Leave a Reply