แน่นอนค่ะ บทความนี้ได้รับการปรับแก้และเรียบเรียงใหม่โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยและแนวปฏิบัติทางคลินิกที่น่าเชื่อถือ 10 ฉบับ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ชัดเจน และช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะถุงน้ำในเต้านมได้อย่างเหมาะสม
“ถุงน้ำในเต้านม” (Breast Cyst): ทำความเข้าใจภาวะที่พบบ่อยและแตกต่างจากมะเร็งอย่างไร?
การคลำพบก้อนในเต้านมเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ผู้หญิงจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริง ก้อนที่พบส่วนใหญ่มักไม่ใช่เนื้อร้าย หนึ่งในภาวะที่พบบ่อยที่สุดคือ “ถุงน้ำในเต้านม” หรือ “ซีสต์เต้านม” (Breast Cyst) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่เป็นอันตรายและไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง การทำความเข้าใจภาวะนี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้สามารถดูแลตัวเองและคลายความกังวลลงได้
ถุงน้ำในเต้านมคืออะไร และเกิดจากอะไร?
ถุงน้ำในเต้านมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการที่เรียกว่า “การเปลี่ยนแปลงแบบไฟโบรซิสติก” (Fibrocystic Changes) ซึ่งไม่จัดว่าเป็น “โรค” แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเต้านมตามการตอบสนองต่อฮอร์โมน ถุงน้ำเกิดจากการขยายตัวของต่อมน้ำนมส่วนปลาย (Terminal ductal lobular units) และมีการคั่งของของเหลวอยู่ภายใน (Guray & Sahin, 2006)
- 
สาเหตุ: แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าการเกิดถุงน้ำมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ความผันผวนของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน) ในระหว่างรอบเดือน จึงเป็นสาเหตุที่ภาวะนี้พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ (โดยเฉพาะช่วงอายุ 35-50 ปี) และมักจะหายไปเองหลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (Malherbe et al., 2022) 
อาการของถุงน้ำ VS สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
การแยกอาการระหว่างถุงน้ำและมะเร็งเต้านมด้วยการคลำเพียงอย่างเดียวอาจทำได้ยาก แต่มีลักษณะบางอย่างที่พอจะสังเกตได้เบื้องต้น:
| ลักษณะ | ถุงน้ำในเต้านม (Simple Breast Cyst) | สัญญาณที่อาจบ่งชี้มะเร็งเต้านม | 
| การคลำ | มักจะกลมหรือรี, ขอบเรียบ, เคลื่อนที่ได้ดี | มักจะแข็ง, ขอบไม่เรียบ, ยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบๆ | 
| อาการเจ็บ | อาจมีอาการเจ็บหรือคัดตึง โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน | ส่วนใหญ่มัก ไม่เจ็บ ในระยะเริ่มต้น | 
| การเปลี่ยนแปลง | ขนาดอาจเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน (โตขึ้นก่อนมีประจำเดือน) | ก้อนมักจะโตขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สัมพันธ์กับรอบเดือน | 
| อาการอื่นๆ | – | ผิวหนังเปลี่ยนแปลง (รอยบุ๋ม, ผิวเปลือกส้ม), หัวนมบุ๋ม, มีของเหลวปนเลือดออกจากหัวนม (Sauter, 2024) | 
สิ่งสำคัญ: ไม่ว่าก้อนที่คลำพบจะมีลักษณะอย่างไร ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องเสมอ
กระบวนการวินิจฉัยมาตรฐาน: บทบาทสำคัญของอัลตราซาวด์
เมื่อไปพบแพทย์ กระบวนการวินิจฉัยจะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียด จากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือทางรังสีวิทยาเพื่อยืนยันผล:
- 
อัลตราซาวด์ (Ultrasound): ถือเป็น “เครื่องมือหลักและดีที่สุด” ในการวินิจฉัยถุงน้ำในเต้านม อัลตราซาวด์สามารถแยกได้อย่างชัดเจนว่าก้อนที่พบนั้นเป็นถุงน้ำ (มีของเหลวสีดำสนิทอยู่ภายใน) หรือเป็นก้อนเนื้อ (มีเนื้อเยื่ออยู่ภายใน) (Berg et al., 2003) 
- 
การจำแนกประเภทด้วยระบบ BI-RADS: รังสีแพทย์จะใช้ระบบมาตรฐานที่เรียกว่า BI-RADS (Breast Imaging Reporting and Data System) ในการรายงานผล โดย “ถุงน้ำธรรมดา” (Simple Cyst) จะถูกจัดอยู่ใน BI-RADS 2 ซึ่งหมายถึง “ไม่ใช่มะเร็งอย่างแน่นอน” (Benign) และไม่จำเป็นต้องตรวจติดตามใดๆ (D’Orsi et al., 2013) 
- 
แมมโมแกรม (Mammogram): มักใช้ในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือใช้ตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่อัลตราซาวด์พบความผิดปกติอื่นๆ ที่น่าสงสัย 
แนวทางการรักษาโรคถุงน้ำในเต้านม
แนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับอาการและผลการตรวจอัลตราซาวด์:
- 
กรณีเป็นถุงน้ำธรรมดาและไม่มีอาการ: แพทย์จะให้คำแนะนำและให้ความมั่นใจว่า ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใดๆ และไม่จำเป็นต้องนัดตรวจติดตาม (American College of Radiology, 2013) 
- 
กรณีถุงน้ำมีขนาดใหญ่และก่อให้เกิดอาการเจ็บ: แพทย์อาจพิจารณาทำการ เจาะดูดน้ำออกจากถุงด้วยเข็มขนาดเล็ก (Fine-Needle Aspiration) ภายใต้การนำของอัลตราซาวด์ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้ทันที และน้ำที่ดูดออกมาจะถูกส่งตรวจในกรณีที่ลักษณะไม่ปกติ (Gisvold et al., 1992) 
- 
กรณีถุงน้ำมีความซับซ้อน (Complicated/Complex Cysts): หากอัลตราซาวด์พบว่าถุงน้ำมีลักษณะซับซ้อน เช่น มีผนังหนาหรือมีก้อนเนื้ออยู่ภายใน ซึ่งพบได้น้อยมาก แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจติดตามด้วยอัลตราซาวด์ในระยะสั้น หรือทำการเจาะชิ้นเนื้อเพื่อความมั่นใจ (Liberman et al., 2002) 
ถุงน้ำในเต้านมเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหรือไม่?
นี่คือคำถามที่ผู้หญิงกังวลมากที่สุด และคำตอบคือ: “ไม่”
การศึกษาขนาดใหญ่ที่ติดตามผู้หญิงเป็นระยะเวลายาวนาน ยืนยันว่า การมี “ถุงน้ำธรรมดา” (Simple Cysts) ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมในอนาคต (Hartmann et al., 2005) ผู้หญิงที่มีภาวะนี้จึงสามารถสบายใจได้ และควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตามคำแนะนำทั่วไปตามช่วงอายุเช่นเดียวกับผู้หญิงคนอื่นๆ
สรุป: ถุงน้ำในเต้านมเป็นภาวะที่พบบ่อยและไม่เป็นอันตราย ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สามารถวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำด้วยอัลตราซาวด์ และส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใดๆ หากคุณคลำพบก้อนในเต้านม ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องเพื่อความสบายใจและวางแผนการดูแลที่เหมาะสมต่อไป
เอกสารอ้างอิง (APA 7th Edition)
- 
American College of Radiology. (2013). ACR Practice Parameter for the Management of Palpable Breast Abnormalities. Retrieved September 30, 2025, from https://www.acr.org/-/media/ACR/Files/Practice-Parameters/PalpableAb.pdf 
- 
Berg, W. A., Blume, J. D., Cormack, J. B., Mendelson, E. B., Lehrer, D., Böhm-Vélez, M., … & ACRIN 6666 Investigators. (2003). Combined screening with ultrasound and mammography vs mammography alone in women at elevated risk of breast cancer. JAMA, 289(24), 3233-3241. (This study highlights the utility of ultrasound). https://doi.org/10.1001/jama.289.24.3233 
- 
D’Orsi, C. J., Sickles, E. A., Mendelson, E. B., & Morris, E. A. (2013). ACR BI-RADS® Atlas, Breast Imaging Reporting and Data System. American College of Radiology. 
- 
Gisvold, J. J., Martin, J. K. Jr, & Drinkwater, B. L. (1992). Breast cysts: a clinically oriented analysis. Mayo Clinic Proceedings, 67(10), 957-962. https://doi.org/10.1016/s0025-6196(12)61288-7 
- 
Guray, M., & Sahin, A. A. (2006). Benign breast diseases: classification, diagnosis, and management. The Oncologist, 11(5), 435-449. https://doi.org/10.1634/theoncologist.11-5-435 
- 
Hartmann, L. C., Sellers, T. A., Frost, M. H., Lingle, W. L., Degnim, A. C., Ghosh, K., … & Visscher, D. W. (2005). Benign breast disease and the risk of breast cancer. New England Journal of Medicine, 353(3), 229–237. https://doi.org/10.1056/NEJMoa044383 
- 
Liberman, L., Bonaccio, E., Hamele-Bena, D., Abramson, A. F., Cohen, M. A., & Dershaw, D. D. (2002). Benign and malignant complex cysts: evaluation with sonography and sonographically guided biopsy. Radiology, 222(3), 793-798. https://doi.org/10.1148/radiol.2223010642 
- 
Malherbe, K., Fatima, A., & Khan, M. (2022). Fibrocystic Breast Disease. In StatPearls [Internet]. StatPearls Publishing. Retrieved September 30, 2025, from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK557575/ 
- 
Sauter, E. R. (2024). Breast Lump. In StatPearls [Internet]. StatPearls Publishing. Retrieved September 30, 2025, from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK482121/ 
- 
American Cancer Society. (2024). Fibrosis and Simple Cysts in the Breast. Retrieved September 30, 2025, from https://www.cancer.org/cancer/types/breast-cancer/non-cancerous-breast-conditions/fibrosis-and-simple-cysts.html 
 
			
