อาหารต้องห้ามยามหิว

ว่ากันว่าความหิวไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าคนเราหิวมาก อาจจะทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด หัวเสีย หรือพลังเผลอทำอะไรที่ไม่ถูกต้องลงไปได้ แต่สำหรับบางคนแล้วจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวโดยเด็ดขาด เมื่อหิวเมื่อไหร่ต้องรีบหาอะไรมาทานแก้อาการกันอย่างรวดเร็ว

จริงอยู่ที่ว่าความหิวเป็นสิ่งที่คนเราไม่ควรเผชิญบ่อย แต่เมื่อใดก็ตามที่หิวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าอาหารทุกชนิดในโลกจะสามารถเข้ามาแก้ไขความหิวได้อย่างฉับพลัน เพราะตามหลักการที่ถูกต้องแล้ว อาหารบางอย่างไม่ควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานตอนท้องว่าง เพราะเมื่อไหร่ที่รับประทานเข้าไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้เลย แล้วอาหารอะไรบ้างที่เราไม่ควรที่จะรับประทานบ่อย มาลองหาคำตอบกันได้เลยค่ะ

1. ผลิตภัณฑ์จากนมและนมถั่วเหลือง

อาจจะไม่ใช่ข้อห้ามเสียทีเดียวสำหรับการดื่มหรือรับประทานอาหารจำพวกนี้เวลาท้องว่าง เพราะเมนูนี้ก็ยังเป็นอาหารยอดนิยมสำหรับคนหิว เนื่องด้วยความสะดวก พกพาง่าย อร่อย และหาซื้อได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่อาหารจำพวกนี้จะขายดิบขายดี และมีสินค้าแบรนด์ใหม่ๆผุดขึ้นมาขายตลอดทั้งปี แต่แม้ว่าการดื่มเครื่องดื่มนี้จะทำให้อยู่ท้อง ได้โปรตีน แต่ประโยชน์จากการดื่มในช่วงเวลานี้อาจดีไม่มากพอกับที่ควรจะเป็น เนื่องจากการดื่มนมและรมถั่วหลืองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดควรจะรับประทานเมื่อกระเพาะอาหารไม่ว่าง หรือหลังการรับประทานอาหารจำพวกแป้งไปแล้ว นอกจากนี้ การทานตอนท้องว่าสำหรับบางคนอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ด้วย ดังนั้น หากต้องการดื่มนมให้มีประโยชน์สูงสุด ควรรองท้องด้วยอาหารอื่นๆก่อน แล้วจึงดื่มนมตาม จะได้ประโยชน์ที่มากกว่า

2. อาหารหวาน

ความหิวคือการที่ร่างกายขาดพลังงาน อาหารที่เคยรับประทานเข้าไปถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายหมดแล้ว เมื่อเราใช้พลังงานเยอะมากกว่าที่เคยทานไป ก็จึงเกิดอาการหิวขึ้นมา ซึ่งสำหรับบางคนมักจะต้องหาอาหารที่มีรสชาติหวาน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต เป็นต้น มาทานทันทีที่หิว เพราะอาหารที่หวานหรือมีน้ำตาลสูงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่า หรือเรียกว่ากินปุ๊บก๋อิ่มปั๊บ แต่รู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารจำพวกนี้ในช่วงเวลาที่ท้องว่าง จะทำให้โปรตีนเข้าจับตัวกับน้ำตาล มีผลต่อทำให้การดูดซึมโปรตีนทุกชนิดลดลง และทำให้ระบบการหมุนเวียนเลือดและไตลดลงได้ด้วย อีกทั้งการรับประทานอาหารหวานๆตอนหิวอาจจะทำให้เราทานมากเกินไป นำพาโรคอ้วนมาสู่เราได้อย่างไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้

3. ผัก

สายเฮลตี้อาจจะขอเลือกทานผักในช่วงเวลาที่เรารู้สึกหิวแบบสุดๆ เพราะคิดว่าการทานผักที่มีแคลลอรี่ต่ำย่อมมีประโยชน์กว่าการทานข้าวขาผมูเป็นไหนๆ แต่ความคิดที่ว่าการทานผักแทนข้าวจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเสมอไปนั้นอาจจะยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควร เพราะผักทุกชนิดไม่สามารถให้สารอาหารที่ครบถ้วนได้ การต้องการสุขภาพที่ดียังต้องอาศัยการรับประทานอาหารให่ครบ 5 หมู่ นอกจากนี้ การรับประทานผักอย่างเดียวในขณะที่ท้องกำลังว่าง อาจจะส่งผลให้คุณท้องอืดโดยไม่รู้ตัวได้ด้วย

4. กล้วย

เมนูกล้วยๆเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทย แต่กล้วยอาจจะไม่ใช่ผลไม้ที่ดีนักเวลาที่เรารู้สึกท้องว่าง เพราะกล้วยอาจจะทำให้ท้องอืด และการรับประทานกล้วยจะทำให้ได้ธาตุแมกนีเซียมที่สูงขึ้น หากเราไม่ใช่นักกีฬาที่ต้องการสารอาหารตัวนี้ในการบำรุงร่างกาย การได้รับแมกนีเซียมที่สูงเกินไปอาจจะไม่ใช่เรื่องดี เพราะการมีสารอาหารตัวนี้ในเลือดสูง จะทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมไป และแมกนีเซียมอาจจะไปยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เป็นอันตรายต่อบุคคลบางกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงต่อฌรคชนิดนี้ด้วย

5. ชาแก่

เวลาใครเริ่มง่วงมักจะเรียกร้องหาเครื่องดื่มชนิดนี้อยู่เสมอ ซึ่งชาก็เป็นหนึงในเครื่องดื่มที่มีความสามารถในการคลายความง่วงได้เป็นอย่างดี แต่การดื่มชาแก่ในช่วงเวลาที่ท้องยังว่างอาจจะไม่เป็นผลดีต่อระบบย่อยอาหารเท่าไหร่นัก เพราะจะทำให้กรดเกลือของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง และทำให้ความสามารถในการย่อยเปลี่ยนแปลงไป หรืออาจทำให้เกิดอาการใจสั่น ปวดหัว หรือถึงขั้นมือเท้าไม่มีแรงเลยก็เป็นได้

6. สุรา

เครื่องดื่มชนิดนี้ไม่เป็นผลดีทั้งเวลาที่ท้องอิ่มและท้องว่าง ยิ่งในขณะที่ท้องว่างด้วยแล้วนั้น การดื่มสุราจะทำให้เพิ่มแรงกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ด้วย

แม้ว่าอาหารหลายๆชนิดจะมีสรรพคุณเป็นยาต้านโรคได้มากมายสารพัด แต่อาหารบางชนิดหากรับประทานไม่ถูกเวลา ก็อาจจะทำให้ยาดีกลายเป็นยาพิษที่เข้ามาทำร้ายร่างกายเราได้เช่นกัน ดังนั้น การใส่ใจดูแลและเลือกรับประทานอาหารให้ถูกชนิด ถูกเวลา จึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะแค่เรารับประทานอาหารที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายได้รับโภชนาการที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้โรคร้ายตามมาหาเราไม่ถูกได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วต้องปรับวิธีการทานอาหารกันอีกสักนิด เลือกทานอาหารที่เหมาะสมในเวลาที่ท้องว่างและท้องอิ่ม เพื่อชีวิตที่ยืนยาว ปลอดภัย และปลอดโรคตลอดไป

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.สุขภาพน่ารู้.com/