คลินิก รพ แพทย์ทางเลือก

“รักษาโรคด้วยแพทย์ทางเลือก”…ไม่อยากตายต้องเลือกให้ดี

Views

แพทย์ทางเลือก: เมื่อความหวังต้องมาพร้อมความรู้และความเข้าใจ

ข่าวผู้ป่วยมะเร็งที่อาการทรุดหนักหลังหันไปรักษาด้วยศาสตร์ทางเลือก เป็นอุทาหรณ์ที่สะท้อนถึงความหวังและความสับสนของผู้ป่วยจำนวนมากในสังคม คำถามสำคัญคือ “แพทย์ทางเลือก” คืออะไรกันแน่ และเราจะเดินบนเส้นทางนี้อย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์สูงสุด?

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของการแพทย์ทางเลือกในมุมมองที่ทันสมัย อิงหลักฐานวิทยาศาสตร์ และเป็นมิตรกับสุขภาพของคุณอย่างแท้จริง

รู้จัก “แพทย์ทางเลือก” ให้ลึกกว่าที่เคย

นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้คำนิยามไว้อย่างน่าสนใจ แต่เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นในปัจจุบัน เราอาจแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบคือ:

  • การแพทย์เสริม (Complementary Medicine): คือการนำศาสตร์อื่นมา “ใช้ร่วม” กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาหรือลดผลข้างเคียง เช่น การทำโยคะหรือสมาธิเพื่อลดความเครียดระหว่างการทำเคมีบำบัด

  • การแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine): คือการนำมา “ใช้ทดแทน” การแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีความเสี่ยงสูง

  • การแพทย์ผสมผสาน (Integrative Medicine): คือแนวทางที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก เป็นการนำการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์เสริมที่ “มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ” มาออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายอย่างเป็นองค์รวม

สาเหตุที่หลายคนสนใจศาสตร์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ความสิ้นหวัง แต่ยังรวมถึงความต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ไม่ได้มองแค่โรค แต่ดูแลไปถึงร่างกายและจิตใจ

กุญแจสำคัญ: “ระบบภูมิคุ้มกัน” กับการแพทย์ทางเลือก

แล้วศาสตร์เหล่านี้ทำงานอย่างไร? หนึ่งในกลไกสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์กำลังให้ความสนใจคือผลกระทบต่อ “ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System)” ซึ่งเป็นกองทัพทหารของร่างกายที่คอยปกป้องเราจากเชื้อโรคและเซลล์ที่ผิดปกติ

เคยรู้สึกไหมว่าเวลาเครียดจัดๆ เรามักจะป่วยง่าย? นี่ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็นเรื่องจริงทางวิทยาศาสตร์!

  1. การฝึกกายและใจ (Mind-Body Interventions): ความเครียดเรื้อรังจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งกดการทำงานของภูมิคุ้มกัน งานวิจัยทบทวนวรรณกรรมจำนวนมากพบว่า การฝึกสมาธิเจริญสติ (Mindfulness Meditation) สามารถช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย (Pro-inflammatory Cytokines) และส่งเสริมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันได้จริง

  2. โภชนบำบัด (Nutrition Therapy): อาหารที่เรากินส่งผลโดยตรงต่อ “จุลินทรีย์ในลำไส้” ซึ่งกว่า 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันอาศัยอยู่ที่นี่ งานวิจัยชี้ว่าอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก (Plant-based diet) ซึ่งอุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถส่งเสริมความหลากหลายของจุลินทรีย์ชนิดดีและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  3. การฝังเข็ม (Acupuncture): ไม่ใช่แค่เรื่องของพลังงานลี้ลับอีกต่อไป แต่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่พบว่า การฝังเข็มสามารถกระตุ้นเส้นประสาทและส่งสัญญาณไปยังสมองให้หลั่งสารสื่อประสาทที่ช่วย “ปรับสมดุล” การตอบสนองของภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกายได้

  4. สมุนไพร (Herbal Medicine): สมุนไพรหลายชนิด เช่น โสม (Ginseng) มีสารออกฤทธิ์ที่เรียกว่า “Immunomodulators” คือไม่เพียงแต่กระตุ้น แต่ยังช่วย “ปรับ” ภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำงานมากเกินไปจนเกิดโรคแพ้ภูมิตัวเองได้อีกด้วย

ศาสตร์เหล่านี้จึงไม่ใช่ “ยาวิเศษ” ที่จะกำจัดโรคได้ในพริบตา แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วย “สนับสนุนและฟื้นฟู” กลไกการป้องกันและซ่อมแซมตามธรรมชาติของร่างกายเรานั่นเอง

เช็กลิสต์ 5 ข้อ: ถามตัวเองก่อนตัดสินใจ

เพื่อให้การเดินทางสายสุขภาพของคุณปลอดภัย นายแพทย์ปราโมทย์ได้ให้หลักคิด 4-5 ข้อไว้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเราสามารถนำมาปรับเป็นเช็กลิสต์ง่ายๆ ได้ดังนี้:

  1. มีหลักฐานรองรับจริงไหม? (Effectiveness): ศาสตร์นั้นๆ มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับหรือไม่ หรือเป็นเพียงคำบอกเล่า? สำหรับผู้ป่วยโรคร้ายแรง สมาคมชั้นนำอย่าง Society for Integrative Oncology (SIO) ได้มีการประเมินหลักฐานและออกแนวทางแนะนำว่าศาสตร์ใดที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ในการใช้ “เสริม” เพื่อลดผลข้างเคียงและเพิ่มคุณภาพชีวิต

  2. ปลอดภัยแค่ไหน? (Safety): มีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง? สมุนไพรบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยาแผนปัจจุบันที่ใช้อยู่ได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง

  3. ใครคือผู้ให้การรักษา? (Credibility): ผู้ให้การรักษามีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องหรือไม่? สถานที่ให้บริการสะอาดและได้มาตรฐานหรือไม่?

  4. คุ้มค่าหรือไม่? (Cost): ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผลกับผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้รับหรือไม่? มีการแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายอย่างโปร่งใสหรือไม่?

  5. เหมาะกับเราจริงๆ หรือเปล่า? (Suitability): การรักษานี้สอดคล้องกับเป้าหมายสุขภาพและวิถีชีวิตของเราหรือไม่?

การแพทย์ทางเลือกและผสมผสานเปรียบเสมือนเครื่องมืออีกชุดหนึ่งในกล่องเครื่องมือดูแลสุขภาพของเรา การไม่ดูถูกหรือปิดกั้น แต่เลือกใช้อย่างมีสติ มีความรู้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดและก้าวเดินบนเส้นทางสุขภาพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


รายการอ้างอิงสำหรับศึกษาเพิ่มเติม (References)

  1. Black, D. S., & Slavich, G. M. (2016). Mindfulness meditation and the immune system: a systematic review of randomized controlled trials. Annals of the New York Academy of Sciences, 1373(1), 6–25.

  2. Wastyk, H. C., Fragiadakis, G. K., Perelman, D., Dahan, D., Lasonos, A. D., Webber, K., … & Gardner, C. D. (2021). Gut-microbiota-targeted diets modulate human immune status. Cell, 184(16), 4137–4153.e14.

  3. Li, Y., Yao, Y., Wang, M., & Yang, J. (2022). Neuro-immune mechanism of acupuncture therapy. Frontiers in Immunology, 13, 961358.

  4. Kang, S., & Min, H. (2012). Ginseng, the ‘Immunity Boost’: The effects of Panax ginseng on the immune system. Journal of Ginseng Research, 36(4), 354–368.

  5. Greenlee, H., DuPont-Reyes, M. J., Balneaves, L. G., Carlson, L. E., Cohen, M. R., Deng, G., … & Zick, S. M. (2017). Clinical practice guidelines on the evidence-based use of integrative therapies during and after breast cancer treatment. CA: A Cancer Journal for Clinicians, 67(3), 194-232.