เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ป่วยยืนยันใหม่ 3 ราย สะสมอยู่ที่ 2,969 ราย จำนวนทั้งหมดนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มกลุ่มที่ 1 ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ จำนวน 2 ราย
1.มีประวัติสัมผัส/เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 0 ราย
1.1 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ พื้นที่
กรุงเทพมหานคร(กทม.) 2 ราย รวม 2 ราย
2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 0 ราย
3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 0 ราย
กลุ่มที่ 2 การค้นหาเชิงรุก (active case finding) จ.ยะลา การค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มผู้สัมผัส เนื่องจากบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้จริง ผลเบื้องต้นพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหนึ่ง ทุกรายได้รับการดูแลและแยกกักแต่ไม่มีอาการจึงต้องมีการทบทวนรายละเอียดในกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องและเก็บสิ่งส่งตรวจใหม่
กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าการกักกันในพื้นที่ที่รัฐจัดให้(state quarantine) เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และเข้ากักกันในพื้นที่(local Quarantine) ใน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 เมษายน จำนวน 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิด 2 รายอยู่ในพื้นที่ กทม. ได้แก่ ผู้ป่วยชาย อายุ 45 ปี และป่วยหญิงอายุ 51 ปี และอีก 1 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐบาลจัดให้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย มีประเด็นการรายงานจากสื่อมวลชนในพื้นที่และลงในโซเชียลมีเดียว่า พบการรายงานจะมีผู้ป่วยที่ยืนยันจำนวน 30 – 40 ราย จึงต้องเรียนข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จ.ยะลา ที่ปรากฏภาพว่ามีการนำรถพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และนำเสนอข้อมูลว่าจะพบผู้ป่วยจำนวนมากในวันนี้ ทาง ศบค. โดยท่านผู้บริหารระดับสูง มีคำสั่งให้ไปทบทวนและสอบสวนข้อเท็จจริง ดังนี้ การรายงานที่เกิดขึ้นเบื้องต้น คือการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกใน 8 อำเภอ ใน จ.ยะลา โดย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา รายงานว่า มีการตรวจจำนวน 311 ราย ผลการตรวจเบื้องต้นให้ผลลบ 271 ราย และมีการยืนยันผลบวก 40 ราย
“ในผลตรวจ 40 ราย เมื่อลงรายละเอียดแต่ละอำเภอมีข้อสงสัยพบว่า ในบางอำเภอมีผลยืนยันสูงถึง 30.77% ซึ่งมากผิดปกติ โดยที่ผ่านมาจากการค้นหาเช่นนี้จะพบผู้ป่วยประมาณ 2-3% สูงสุด 5% ต้องนำมาวิเคราะห์ผู้ที่ได้รับการตรวจ จึงมีข้อสรุปในการหารือทั้งในระดับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ระดับจังหวัด รวมถึงทางกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ปลัดกระทรวงฯ ไปจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ให้มีการทวนชุดข้อมูลนี้อีกครั้งหนึ่ง การพบเป็นกลุ่มก้อนใหญ่นี้เป็นเรื่องที่ดี หมายถึงระบบของการคัดกรอง การตรวจสอบเชิงรุกเป็นเรื่องที่ดี แต่กลุ่มก้อนใหญ่ถึงขนาดเป็นจำนวนเลขสองหลัก ต้องขอทวนสอบอีกสักนิดหนึ่ง แม้ว่าจะมีความสำคัญแต่ความถูกต้องต้องมาก่อน ขอเวลาในช่วงวันนี้จะมีการเข้าไปเก็บตัวอย่างใหม่อีกรอบ คนที่อยู่ในกลุ่มยืนยันนี้จะถูกแยกกัก เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและปลอดภัย จะทำการตรวจซ้ำด้วยชุดตรวจที่เป็นมาตรฐานที่เชื่อถือได้ คือ เดิมทีจะใช้การตรวจ 1 ตัวอย่างจาก 2 ห้องปฏิบัติการ เหตุนี้ก็เช่นกันจะนำตัวอย่างมาตรวจซ้ำในอีกทีหนึ่ง อาจจะช้าซักนิดนึงแต่ยืนยันออกมาเพื่อความแน่นอนจริงๆ ทางแพทย์จะเข้าไปทำการซักประวัติและสอบสวนโรค เพื่อขยายกลุ่มก้อนและขยายผลเข้าไปอีกว่าเราจะได้ตัวเลขตัวนี้เพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในวันนี้จึงขอยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ในจำนวน 3 ราย อะไรก็ตามจำนวนผู้ป่วย 40 รายดังกล่าวจะไม่มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด ทางผู้บริหารทุกระดับเข้าใจและจะนำเสนอข้อเท็จจริงตามความเป็นจริงให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลตรงกัน และมีระบบการเฝ้าระวังที่ดำเนินการมาอย่างดีโดยตลอด ยังคงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่อยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข