ผลกระทบ โควิด-19

ประเมินสถานการณ์โควิด-19 สิ้นเดือนนี้ เตรียมพิจารณาคลายล็อก

Views

วานนี้ (15 เม.ย. 63) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทยอยลดลงในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำหรับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019พิจารณาว่าสามารถผ่อนปรนมาตรการใดบ้าง อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงสูง ที่จะมีการรวมกลุ่ม ชุมนุมของคน จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการทั้งผ่อนปรนและเพิ่มความรัดกุมให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2563 ทั้งนี้ หากมีการผ่อนปรนมาตรการต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากบางพื้นที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ โดยเฉพาะภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และ ภาคใต้ จึงต้องเตรียมความพร้อมของมาตรการในทุกมิติ รวมทั้งความร่วมมือจากภาคประชาชน หากกลับมาเปิดให้บริการกิจการต่าง ๆ จะต้องมีมาตรการต่างๆ เช่น การวัดอุณหภูมิ การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การจำกัดปริมาณของผู้เข้าใช้บริการเพื่อไม่ให้มีความแออัดมากเกินไป

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย. 63 นั้น ศบค. จะนำสถานการณ์ในหลายด้านต่างๆ มาพิจารณา แม้ว่าในขณะนี้ความรุนแรงของการแพร่ระบาดมีแนวโน้มลดลงในบางช่วง แต่หากขาดวินัย ความร่วมมือ ละเลยการปฏิบัติตามมาตรการ หย่อนความเข้มงวด อาจกลับมารุนแรงเพิ่มขึ้นได้

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีสถานเอกอัครราชทูตในบางประเทศ ได้ขออนุมัติเครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่อรับคนไทยเดินทางกลับประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข จะหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อเตรียมพร้อมรองรับ รวมทั้งสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต กรมการกงสุล ในต่างประเทศดูแลคนไทยทั้งอาหารการกินขระรอที่จะเดินทางกลับ เพราะทุกคนที่กลับมาจะต้องเข้าสู่กระบวนการ State Quarantine จึงต้องดูแลให้ครบถ้วนทั้งคนไทยที่อยากเดินทางกลับเข้าประเทศ และคนที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศ ที่ผ่านมาการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่กำหนดไว้ ซึ่งขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคทั้ง State Quarantine และ Local Quarantine เป็นเวลา 14 วัน