หนึ่งในโรคร้ายที่ผู้หญิงทั่วโลกต่างหวาดกลัวคือ มะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง และมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอด แต่ด้วยเป็นโรคที่ไม่มีอาการชัดเจนนักในตอนแรก มีเพียงก้อนเนื้อให้สัมผัสได้ หลายคนจึงละเลยจนเข้าสู่ระยะลุกลาม ดังนั้นการใส่ใจตรวจหามะเร็งเต้านมอย่างจริงจังเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ อาการเบื้องต้นของมะเร็งเต้านม เพราะยิ่งพบเร็วเท่าไร ยิ่งลดความรุนแรงของโรคและอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลงได้มากเท่านั้น
มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อของเต้านมหรือหน้าอกของผู้หญิงและผู้ชายได้ แต่มักพบมากกว่าในผู้หญิง เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในเต้านมเกิดการเปลี่ยนแปลงคอลลาเจนภายในเนื้อเยื่อเต้านมและเมื่อเซลล์ นั้นเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างไม่ปกติมักจะเกิดเป็นก้อนเนื้องอก อาการของมะเร็งเต้านมอาจแตกต่างกันไปตามระยะของโรคและความรุนแรงของเนื้องอก
สัญญาณเตือนและ อาการเบื้องต้นของมะเร็งเต้านม
อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมอาจแตกต่างไปตามบุคคลและระยะของโรค
- คลำพบก้อน บริเวณเต้านมหรือรักแร้
- บริเวณหัวนมบุ๋ม มีน้ำเหลืองหรือเลือดไหล หรือมีแผลเรื้อรัง
- ผิวเต้านมเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวแข็งหนาขึ้น มีก้อนนูน หรือผิวขรุขระ มีผื่นแดง ผื่นคล้ายผิวเปลือกส้ม
- การมีน้ำเหลืองหรือเลือดออกสังเกตเห็นการไหลออกของน้ำเหลืองหรือเลือดจากเต้านมโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น การคัดเครื่องแต่งกายหรือการล้างนม
- เต้านมผิดรูป ไม่เหมือนเดิม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เต้านมข้างเดียว
- มีอาการปวดบริเวณเต้านมมากกว่าปกติ
- มีรอยบุ๋มหรือย่นบริเวณเต้านม หัวนมบุ๋มเข้าไปในเต้านม โดยไม่ได้เป็นมาก่อน
- มีเลือด หรือของเหลว ที่เผิดปกติออกมาจากหัวนม
- มีแผลที่บริเวณหัวนม หัวนมมีอาการเน่า และรักษาไม่หาย
ระยะของโรคมะเร็งเต้านม
แบ่งออกเป็นระยะต่าง ๆ ตามการเข้าของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายของเนื้องอกในเต้านม โดยระยะของโรคมะเร็งเต้านมแบ่งได้ดังนี้:
- ระยะที่ 0 (Stage 0) ในระยะนี้มะเร็งเต้านมยังไม่ได้แพร่กระจายออกไปยังเนื้อเยื่ออื่น ๆ และยังไม่เจริญเติบโตในท่อน้ำนม (ducts) หรือท่อลูกนม (lobules) ซึ่งบางครั้งอาจเรียกว่า “ความเสี่ยงสูง” (high-risk) มะเร็งเต้านมในระยะนี้มักพบโดยบังเอิญผ่านการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
- ระยะที่ 1 (Stage 1) ในระยะนี้มะเร็งเต้านมเริ่มเจริญเติบโตและแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง โดยมักจะยังไม่มีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง (lymph nodes) หรืออวัยวะอื่น ๆ
- ระยะที่ 2 (Stage 2) ก้อนมะเร็งมีขนาดระหว่าง 2 – 5 เซนติเมตรและเริ่มลุกลามไปสู่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ แต่ยังไม่แพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นในระยะนี้มะเร็งเต้านมเริ่มขยายขนาดมากขึ้นและอาจแพร่ กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียง อาจมีการกระจายไปยังหน้าอกหรือกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองอีกด้วย
- ระยะที่ 3 (Stage 3) ในระยะนี้มะเร็งเต้านมขยายขนาดมากขึ้นและแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองในบริเวณที่ ไกลออกไป
- ระยะที่ 4 (Stage 4) เป็นระยะที่มะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก, เต้านมข้างตรงข้าม, โลหิต หรืออวัยวะภายในอื่น ๆ
อาการเบื้องต้นของมะเร็งเต้านม หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ ยังไม่มีก้อนมะเร็งจะสามารถรักษาให้หายได้
หากตรวจพบตั้งแต่ระยะที่ 0 ซึ่งยังไม่มีก้อนมะเร็งจะสามารถรักษาให้หายได้ 100% แต่หากพบก้อนมะเร็งที่ขนาดไม่ถึง 1 เซนติเมตร เปอร์เซ็นต์การรักษาหายจะลดลงเหลือ 98% และถ้าเข้าสู่ระยะที่ 1 ที่ก้อนมะเร็งมีขนาด 1 – 2 เซนติเมตรแล้ว โอกาสหายจะเหลือเพียง 80% เท่านั้น เพราะยิ่งก้อนมะเร็งใหญ่ขึ้น โอกาสที่เซลล์มะเร็งจะหลุดไปยังอวัยวะอื่นยิ่งมากขึ้น ดังนั้นยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งมีโอกาสหายได้มากกว่า
วิธีการตรวจมะเร็งเต้านม
ปัจจัยที่ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีโอกาสรักษาให้หายได้ มีอยู่ 2 ปัจจัยคือ ค้นพบให้เร็วและการรักษาที่มีคุณภาพ ด้วยความที่มะเร็งเต้านมเป็นเซลล์มะเร็งที่เกิดกับอวัยวะภายนอก สามารถคลำหาได้ด้วยมือ แต่นั่นไม่ใช่อาการเริ่มต้น เพราะกว่าจะคลำเจอต้องเป็นก้อนมะเร็งที่ใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 เซนติเมตรไปแล้ว
การตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรม (mammogram)
เป็นวิธีการตรวจสุขภาพเต้านมที่สำคัญและได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในผู้หญิงทั่วไป ซึ่งการตรวจด้วยแมมโมแกรมนั้นเป็นเทคโนโลยีการตรวจทางรังสีชนิดพิเศษ คล้ายกับเครื่องเอกซเรย์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการหาความผิดปกติของเต้านมตั้งแต่ ระยะเริ่มแรก ใช้เวลาตรวจประมาณ 5 – 10 นาที โดยเครื่องจะกดเต้านมไว้ประมาณ 5 วินาที ให้เนื้อภายในเต้านมกระจายออก เนื่องจากภาพที่ได้จากการตรวจมีความละเอียดสูง ทำให้การวินิจฉัยถูกต้อง อาจจะทำให้เจ็บบ้างขึ้นอยู่กับขนาดของเต้านมแต่ละคน และเนื่องจากปริมาณรังสีที่ใช้น้อยมาก ประกอบกับการตรวจเพียง 1 – 2 ปีต่อครั้ง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย
การอัลตร้าซาวด์เต้านม
เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปในเนื้อเต้านม เมื่อคลื่นเสียงกระทบกับเนื้อเยื่อต่างๆ จะสะท้อนกลับขึ้นมาที่เครื่องตรวจ ทำการตรวจจับความแตกต่างของเนื้อเยื่อปกติกับก้อนในเต้านมได้ อีกทั้งยังสามารถจำแนกได้ว่า ก้อนในเต้านมนั้นมีองค์ประกอบเป็นน้ำหรือเป็นก้อนเนื้อ เพื่อแยกความผิดปกติของก้อนที่พบได้เบื้องต้น
การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการพบก้อนที่บริเวณเต้านมและโดยมากผู้ป่วยจะตรวจพบหรือคลำได้ด้วยตนเอง การตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอจะทำให้รู้ว่าลักษณะของเต้านมปกติเป็นอย่างไร และสามารถสังเกตได้หากเริ่มมีความผิดปกติขึ้น จะทำให้แพทย์สามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกซึ่งจะทำให้การรักษาได้ผลที่ดีเยี่ยม
- การคลำในแนวก้นหอย โดยเริ่มจากคลำส่วนบนของเต้านมตามแนวก้นหอยไปจนถึงฐานนมบริเวณรอบรักแร้
- การคลำในแนวรูปลิ่ม เริ่มคลำจากส่วนบนของเต้านม จนถึงฐานแล้วกลับขึ้นสู่ยอดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งเต้านม
- การคลำในแนวขึ้นลงจากใต้เต้านม
เริ่มคลำจากใต้เต้านมจนถึงกระดูกไหปลาร้า แล้วขยับนิ้วทั้งสามนิ้ว คลำในแนวขึ้นและลงสลับกันไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งเต้านม
มะเร็งเต้านมในผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในระยะแรกนั้นอาจไม่แสดงอาการ ทำให้หลาย ๆ คนมาตรวจพบในเวลาที่สายไป ดังนั้น ต้องสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เพราะยิ่งพบเร็วเท่าไร โอกาสในการลดความรุนแรงของโรคและอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็จะลดลงได้มากเท่านั้น
ขอบคุณโรงพยาบาลบีเอ็นเอช BNH Hospital