ทำไมดื่มแล้วตัวแดงหน้าแดง
ปกติแล้วเวลาเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้ไปเป็นสารที่ใช้ในวงจรสร้างพลังงาน ในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีช่วงหนึ่งซึ่งสร้างสารที่ชื่อว่าแอลดีไฮด์ ซึ่งมีพิษต่อร่างกายได้ ในคนปกติ ร่างกายจะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า aldehyde dehydrogenase ทำหน้าที่เปลี่ยนสารแอลดีไฮด์ให้กลายเป็นสารอื่นต่อไป ซึ่งในคนเชื้อชาติทางด้านเอเชีย จะมีบางส่วน(50%) ซึ่งมีพันธุกรรมที่กำหนดการสร้างเอนไซม์ตัวนี้น้อยกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อกินเหล้าเข้าไปเหล้าจะเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้ช้ากว่าโดยไปเกิดการคั่งของสารกลุ่มแอลดีไฮด์นี้
สารแอลดีไฮด์จะทำให้เกิดอาการต่างๆ คือ คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว ปวดหัว อาการบวมและคันตามตัว หลอดเลือดขยายตัว หน้าแดงมือแดงได้ ถ้าเข้าใจผิดจะคิดว่าเมาง่าย จริงๆคนที่เกิดอาการนี้ไม่จำเป็นต้องเมาครับ และกลไกนี้เป็นหนึ่งในเรื่องอาการแฮงค์ครับ
ดื่มเหล้าแล้วตัวแดง หน้าแดง เสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารมากถึง 10 เท่า !
ปกติพอเรากินแอลกอฮอล์เข้าไป ตับจะทำหน้าที่กำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย โดยอาศัยเอนไซม์ที่เปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นสารที่มีชื่อเรียกว่า Acetaldehyde (ถ้ามีในร่างกายเยอะๆจะทำให้เกิดอาการแฮงค์) แต่โดยเฉพาะคนในเอเชียตะวันออก จะมีปัญหาที่ยีนส์ ALDH2 ที่ทำให้การกำจัดเจ้า Acetaldehyde มันทำงานได้น้อยลง ผลคือพวกนี้มันจะกินเหล้าแป๊บๆ ก็ตัวแดง
และการที่ Acetaldehyde สะสมในร่างกายบ่อยๆ เพราะกระบวนการกำจัดมันไม่ดี จะทำให้คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงกว่าชาวบ้านเยอะมาก มีตัวเลขระบุว่า จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหาร สูงกว่าคนทั่วไป 6-10 เท่า และถ้าคนกลุ่มนี้กินเหล้าเบียร์ประจำสม่ำเสมอ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารสูงกว่าคนทั่วไปราวๆ 90 เท่า
ขอขอบคุณข้อมูล:friendofdrinkera.com