คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนมักเกิดอาการวิตกกังวลบ่อยๆ เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด เพราะหากเป็นท้องแรกก็มักจะกังวลถึงความเจ็บปวด กลัวลูกไม่ปลอดภัย ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าควรผ่าคลอดดีไหม หรือจะคลอดธรรมชาติดี ดังนั้นเราจะพาคุณแม่ไปดูข้อดีของการผ่าคลอดกัน เพื่อจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นนั่นเอง
1.กำหนดเวลาเกิดได้
นี่คือข้อดีอย่างหนึ่งที่คุณแม่เลือกใช้วิธีผ่าคลอด เพราะสามารถกำหนดเวลาเกิดที่ชัดเจนได้ ซึ่งหากคุณแม่ได้ดูฤกษ์และวันเวลาคลอดที่ดีได้แล้ว ก็สามารถนัดคุณหมอได้เพื่อทำการคลอดได้เลย แต่ทั้งนี้จะต้องดูความพร้อมของร่างกายคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ด้วย
2.ไม่ต้องรอคลอดนาน
การผ่าคลอดนั้นคุณหมอไม่จำเป็นต้องรอปากมดลูกเปิดเหมือนการคลอดธรรมชาติ ซึ่งการรอปากมดลูกเปิดนั้นต้องใช้เวลานานและมักเกิดความเจ็บปวดอย่างมาก การผ่าคลอดจึงไม่ต้องทนกับอาการเจ็บปวดนานๆ โดยการผ่าคลอดนั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ลูกน้อยก็ออกมาแล้ว
3.ลดการยืดหย่อนของเชิงกราน
หากคุณแม่เลือกคลอดแบบธรรมชาติในขณะกำลังคลอดนั้นคุณแม่จะต้องออกแรงเบ่ง ซึ่งแรงเบ่งอาจจะทำให้เชิงกรานยืดหย่อนหรือทำให้เส้นเอ็นยึดไปด้วยก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ได้ในอนาคต แต่หากคุณแม่เลือกการคลอดแบบผ่าคลอด จะช่วยลดแรงเบ่งได้มากมากทีเดียว จึงทำให้ไม่มีผลกระทบต่อกระบังลมและเชิงกรานเลยนั่นเอง
4.ลดการเจ็บปวดขณะคลอด
การคลอดโดยวิธีธรรมชาติคุณแม่จะมีอาการเจ็บท้อง ปวดหลังอย่างมาก และระหว่างคลอดจะต้องรู้สึกเจ็บช่องคลอดไม่น้อยเลยทีเดียว แต่การคลอดแบบผ่าคลอดนั้นคุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย เพราะระหว่างคลอดคุณหมอจะทำการโปะยาสลบหรือบล็อกหลัง ซึ่งคุณแม่สามารถเลือกทำได้หนึ่งอย่าง แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน
5.ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีความเสี่ยงเกิดภาวะอันตรายต่างๆ ได้ง่ายมาก ดังนั้นการผ่าคลอดจึงถือเป็นวิธีรักษาและเป็นวิธีเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็วที่สุด และปลอดภัยต่อชีวิตของคุณแม่และลูกน้อยด้วย
การผ่าคลอดเป็นการคลอดที่จะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยได้รับความปลอดภัยมากขึ้น แต่หากคุณแม่ท่านไหนมีสุขภาพแข็งแรงและลูกน้อยสมบูรณ์น้ำหนักตามเกณฑ์ก็สามารถเลือกคลอดแบบธรรมชาติได้ ซึ่งทั้งสองวิธีต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนั่นเอง
ขอขอบคุณ https://www.sanook.com