สมุนไพรแพทย์ทางเลือกแพทย์แผนไทย

สมุนไพรขับ “ประจำเดือน” ดีต่อร่างกายจริงหรือไม่ ?

Views

สมุนไพรกับวันนั้นของเดือน: ความเชื่อที่ต้องมาพร้อมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์

ช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงหลายคนอาจมองหาสมุนไพรหรืออาหารที่ช่วย “บำรุงเลือด” หรือ “กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต” ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายตัวขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของสมุนไพรด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมการเลือกใช้สมุนไพรในช่วงมีประจำเดือนจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ทำไมการ “กระตุ้นเลือด” มากเกินไปจึงเป็นเรื่องที่ต้องระวัง?

โดยธรรมชาติแล้ว ประจำเดือนคือกระบวนการที่เยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมากหลุดลอกออกมา การรับประทานสมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตอย่างเข้มข้นในช่วงนี้ อาจทำให้เลือดประจำเดือนมามากกว่าปกติ (Menorrhagia) ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจากการเสียเลือด แต่ยังอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้หรือกระตุ้นให้โรคทางนรีเวชบางอย่างรุนแรงขึ้นได้

ดังที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ให้ข้อมูลเตือนไว้ เรามาเจาะลึกถึงกลไกของสมุนไพรที่ถูกกล่าวถึงกันครับ

เจาะลึกกลไกสมุนไพรยอดนิยม: ไม่ใช่แค่เรื่อง “ร้อน” หรือ “เย็น”

  1. ตังกุย (Angelica sinensis): ได้รับฉายาว่าเป็น “โสมสำหรับผู้หญิง” และถูกใช้ในการแพทย์แผนจีนเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน แต่ในทางเภสัชวิทยา สารสำคัญในตังกุยมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant) คล้ายกับยาละลายลิ่มเลือด การรับประทานในช่วงมีประจำเดือนจึงอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลงและมาในปริมาณที่มากกว่าปกติ
  2. โสม (Panax ginseng): เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสมุนไพรบำรุงกำลัง แต่สาร “จินเซนโนไซด์” (Ginsenosides) ในโสม มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (Anti-platelet) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการทำให้เลือดแข็งตัว การทานโสมจึงอาจไม่เหมาะกับช่วงที่ร่างกายต้องการให้เลือดหยุดไหลตามธรรมชาติ
  3. กวาวเครือขาว (Pueraria mirifica): สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อระบบไหลเวียนเลือดโดยตรง แต่มีสาร “ไฟโตเอสโตรเจน” (Phytoestrogen) ที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงในปริมาณสูงมาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมตั้งครรภ์ การได้รับสารนี้เข้าไปมากเกินไป อาจทำให้เยื่อบุหนาผิดปกติ และเมื่อถึงเวลามีประจำเดือนก็จะหลุดลอกออกมาในปริมาณมาก
  4. ขิง (Zingiber officinale): แม้ขิงจะนิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ต้องระวัง เพราะมีงานวิจัยพบว่า ขิงสามารถช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือนในผู้ที่มีภาวะเลือดออกมากได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดเช่นกัน ดังนั้น ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

มิติของ “ระบบภูมิคุ้มกัน” ที่คุณอาจไม่เคยรู้

กระบวนการมีประจำเดือนไม่ได้เกี่ยวข้องแค่ฮอร์โมนและเลือด แต่ “ระบบภูมิคุ้มกัน” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง นักวิทยาศาสตร์พบว่าการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกเป็น “กระบวนการอักเสบที่ถูกควบคุม (Controlled Inflammatory Process)” ซึ่งเซลล์ภูมิคุ้มกันต่างๆ เช่น Macrophages และ Neutrophils จะถูกเรียกมารวมตัวกันที่มดลูกเพื่อช่วยในกระบวนการนี้

การใช้สมุนไพรที่มีผลต่อฮอร์โมนหรือการไหลเวียนเลือดโดยไม่เข้าใจ จึงอาจเป็นการเข้าไปรบกวนกระบวนการทางภูมิคุ้มกันที่ละเอียดอ่อนนี้ได้

มุมมองการแพทย์ทางเลือกที่ปลอดภัย: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ

ในฐานะ “แพทย์ทางเลือก” สมุนไพรคือเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะใช้ได้กับทุกคน ทุกเวลา หลักการสำคัญคือ การใช้ให้ถูกคน ถูกโรค และถูกเวลา การซื้อสมุนไพรมารับประทานเองโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ไม่ต่างอะไรกับการ “สุ่มยา” ใช้เอง ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้

ทางที่ดีที่สุดคือ ควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน หรือแพทย์แผนไทย/จีน ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาวะของร่างกายและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ


รายการอ้างอิง 

  1. Cui, Y. K., & Liu, Y. Q. (2020). Anticoagulant and antiplatelet activities of main components of Angelica sinensis (Danggui). Journal of Ethnopharmacology, 247, 112275. https://doi.org/10.1016/j.jep.2019.112275
  2. Kim, J. H. (2018). Cardiovascular diseases and Panax ginseng: A review on molecular mechanisms and medical applications. Journal of Ginseng Research, 42(1), 16-26. https://doi.org/10.1016/j.jgr.2017.01.005
  3. Malaivijitnond, S. (2012). Medical application of phytoestrogens from the Thai herb Pueraria mirifica. Frontiers of Medicine, 6(1), 8-21. https://doi.org/10.1007/s11684-012-0182-3
  4. Kashefi, F., Khajehei, M., Alavinia, S. M., Golmakani, E., & Asili, J. (2015). Effect of ginger (Zingiber officinale) on heavy menstrual bleeding: A placebo-controlled, randomized clinical trial. Phytotherapy Research, 29(1), 114–119. https://doi.org/10.1002/ptr.5235
  5. Critchley, H. O., Maybin, J. A., Armstrong, G. M., & Williams, A. R. (2020). Physiology of the endometrium and regulation of menstruation. Physiological Reviews, 100(3), 1149-1179. https://doi.org/10.1152/physrev.00031.2019