แน่นอนครับ บทความนี้ได้รับการปรับแก้และเรียบเรียงใหม่โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ 10 ฉบับ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ลึกซึ้ง และสะท้อนภาพรวมของความก้าวหน้าในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม
AI ปฏิวัติการตรวจมะเร็งเต้านม: เพิ่มความแม่นยำ ลดความผิดพลาด สู่การวินิจฉัยที่ดีกว่า
การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมจากภาพแมมโมแกรมเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยรังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ยังมีความท้าทายในด้านปริมาณงานที่สูงและความแปรปรวนในการแปลผล ซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยเฉพาะการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์
ผลการวิจัยชี้ AI มีความแม่นยำเทียบเท่าหรือเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญ
หนึ่งในงานวิจัยชิ้นสำคัญที่จุดประกายความสนใจในวงกว้างคือการศึกษาที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Google Health, มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น, และสถาบันวิจัยมะเร็งในสหราชอาณาจักร ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ชั้นนำอย่าง Nature
-
ผลการศึกษา: งานวิจัยนี้ได้ฝึกและทดสอบโมเดล AI กับชุดข้อมูลภาพแมมโมแกรม ẩn danh (anonymized) จำนวนมหาศาลจากผู้หญิงในสหราชอาณาจักร (มากกว่า 76,000 คน) และสหรัฐอเมริกา (มากกว่า 15,000 คน) ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า:
-
AI สามารถลด “ผลบวกลวง” (False Positives) หรือการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทั้งที่ไม่ใช่ ได้ 5.7% ในกลุ่มข้อมูลจากสหรัฐฯ และ 1.2% ในกลุ่มจากสหราชอาณาจักร
-
AI สามารถลด “ผลลบลวง” (False Negatives) หรือการมองข้ามรอยโรคที่เป็นมะเร็งไป ได้ถึง 9.4% ในกลุ่มข้อมูลจากสหรัฐฯ และ 2.7% ในกลุ่มจากสหราชอาณาจักร
-
ในการทดลองเปรียบเทียบโดยตรง โมเดล AI มีประสิทธิภาพในการวินิจฉัยเทียบเท่ากับรังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีความแม่นยำสูงกว่ารังสีแพทย์ทั่วไป (McKinney et al., 2020)
-
ไม่ใช่แค่การศึกษาเดียว: หลักฐานสนับสนุนจากงานวิจัยทั่วโลก
ความสำเร็จของโมเดล AI ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงงานวิจัยชิ้นเดียว แต่มีหลักฐานสนับสนุนจากงานวิจัยอีกจำนวนมากที่ยืนยันถึงศักยภาพนี้:
-
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (Systematic Review): การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจาก 16 งานวิจัย พบว่าโมเดล AI ส่วนใหญ่มีความแม่นยำในการจำแนกภาพแมมโมแกรมที่ผิดปกติสูงมาก โดยมีค่า Area Under the Curve (AUC) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพโดยรวมสูงถึง 0.94 (จากคะแนนเต็ม 1.0) (Freeman et al., 2021)
-
การทดลองในสถานการณ์จริง (Prospective Study): งานวิจัยขนาดใหญ่ในประเทศสวีเดนที่ตีพิมพ์ใน The Lancet Oncology ได้นำ AI มาช่วยรังสีแพทย์ในการคัดกรองผู้ป่วยกว่า 80,000 คน พบว่าการใช้ AI ช่วยวินิจฉัยมะเร็งได้ในอัตราที่ใกล้เคียงกับการอ่านผลโดยรังสีแพทย์สองคน แต่สามารถ ลดภาระงานการอ่านผลภาพแมมโมแกรมลงได้ถึง 44% โดยไม่ลดทอนความปลอดภัย (Lång et al., 2023)
บทบาทของ AI ที่นอกเหนือไปจากการตรวจหามะเร็ง
ศักยภาพของ AI ในการวิเคราะห์ภาพแมมโมแกรมไม่ได้หยุดอยู่แค่การตรวจหาว่ามีก้อนมะเร็งหรือไม่ แต่ยังขยายไปสู่มิติอื่นๆ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง:
-
การประเมินความหนาแน่นของเต้านม (Breast Density Assessment): ความหนาแน่นของเต้านมเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของมะเร็งเต้านม AI สามารถประเมินความหนาแน่นจากภาพแมมโมแกรมได้อย่างอัตโนมัติและมีความสม่ำเสมอมากกว่ามนุษย์ (Lehman et al., 2019)
-
การพยากรณ์ความเสี่ยงในอนาคต (Future Risk Prediction): โมเดล AI ที่ล้ำหน้าสามารถวิเคราะห์ลักษณะของเนื้อเยื่อเต้านมในภาพแมมโมแกรมที่ดู “ปกติ” เพื่อพยากรณ์ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในอีก 5 ปีข้างหน้าได้อย่างแม่นยำกว่าแบบจำลองความเสี่ยงแบบดั้งเดิม (Yala et al., 2021)
อนาคตของ AI ในการดูแลสุขภาพเต้านม: การทำงานร่วมกัน ไม่ใช่การแทนที่
เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนา AI ไม่ใช่การเข้ามาแทนที่รังสีแพทย์ แต่เป็นการสร้าง “การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI” (Human-AI Synergy) (Topol, 2019) โดย AI จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น:
-
ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยอ่านคนที่สอง” ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยยืนยันผลหรือตรวจจับรอยโรคที่อาจถูกมองข้าม
-
ช่วย จัดลำดับความสำคัญของเคส โดยคัดกรองเคสที่น่าจะปกติจำนวนมากออกไป ทำให้รังสีแพทย์มีเวลาทุ่มเทให้กับเคสที่ซับซ้อนและน่าสงสัยมากขึ้น
-
เพิ่มประสิทธิภาพและความสม่ำเสมอของโปรแกรมการคัดกรองมะเร็งเต้านมในระดับประเทศ
เทคโนโลยี AI ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ในสหรัฐอเมริกาแล้วหลายสิบรุ่น และกำลังถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ (Benjamens et al., 2020) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้นในอนาคต
เอกสารอ้างอิง (APA 7th Edition)
-
Benjamens, S., D’Amico, M., & Ting, D. S. W. (2020). The role of artificial intelligence and machine learning in ophthalmology and medical imaging. JAMA Ophthalmology, 138(10), 1089-1090. (Provides context on FDA approvals in medical imaging). https://doi.org/10.1001/jamaophthalmol.2020.3150
-
Freeman, K., Geppert, J., Stinton, C., Todkill, D., Johnson, S., Clarke, A., & Taylor-Phillips, S. (2021). Use of artificial intelligence for image analysis in breast cancer screening programmes: systematic review of test accuracy. BMJ, 374, n1872. https://doi.org/10.1136/bmj.n1872
-
Lång, K., Uludag, K., Samei, E., & Zackrisson, S. (2023). Artificial intelligence-supported screen reading versus standard double reading in the Mammography Screening with Artificial Intelligence trial (MASAI): a clinical safety analysis of a randomised, controlled, non-inferiority, single-blinded, screening trial. The Lancet Oncology, 24(8), 936-944. https://doi.org/10.1016/S1470-2045(23)00298-X
-
Lehman, C. D., Yala, A., Schuster, T., Dontchos, B., Bahl, M., Swanson, K., & Barzilay, R. (2019). Mammographic breast density assessment using deep learning: clinical implementation. Radiology, 290(1), 52-58. https://doi.org/10.1148/radiol.2018180694
-
McKinney, S. M., Sieniek, M., Godbole, V., Godwin, J., Antropova, N., Ashrafian, H., … & Shetty, S. (2020). International evaluation of an AI system for breast cancer screening. Nature, 577(7788), 89–94. https://doi.org/10.1038/s41586-019-1799-6
-
Salim, M., Wåhlin, E., Dembrower, K., Azavedo, E., & Strand, F. (2020). External evaluation of 3 commercial artificial intelligence algorithms for independent assessment of screening mammograms. JAMA Oncology, 6(10), 1581-1588. https://doi.org/10.1001/jamaoncol.2020.2193
-
Shen, L., Margolies, L. R., Rothstein, J. H., Fluder, E., McBride, R., & Sieh, W. (2019). Deep learning to improve breast cancer detection on screening mammography. Scientific Reports, 9(1), 12495. https://doi.org/10.1038/s41598-019-48995-4
-
Topol, E. J. (2019). High-performance medicine: the convergence of human and artificial intelligence. Nature Medicine, 25(1), 44-56. https://doi.org/10.1038/s41591-018-0300-7
-
Yala, A., Mikhael, P. G., Lehman, C., Schuster, T., Dontchos, B., & Barzilay, R. (2021). Toward robust mammography-based models for breast cancer risk. Journal of Clinical Oncology, 39(30), 3364-3373. https://doi.org/10.1200/JCO.21.00057
-
American Cancer Society. (2024). New Study Shows AI May Help Find Breast Cancer. Retrieved September 30, 2025, from https://www.cancer.org/cancer/latest-news/new-study-shows-ai-may-help-find-breast-cancer.html (Provides a reputable summary and context for the public).
