SLE

โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

Views

โรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่หลายคนเป็นแล้วแต่ยังไม่เข้าใจถึงโรคที่จริง อาจปล่อยปละละเลยไม่ทำการรักษา และจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มาทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับโรคนี้กัน

โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE คืออะไร
ภาวะแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus ) คือภาวะที่เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ โดยปกติเม็ดเลือดขาวจะทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรค แต่ในคนไข้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิในเม็ดเลือดขาวกลับไปทำลายเซลล์ร่างกายตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ ที่มันไปทำลาย ดังนั้น อาการที่เกิดขึ้นก็เกิดจากเม็ดเลือดขาวไปโจมตีอวัยวะต่าง ๆ เหล่านั้น

อาการที่ควรพบแพทย์
อาการที่พบบ่อย มีอาการทางผิวหนัง เช่นมีผมร่วง มีแผลในปาก จะอยู่ที่เพดานซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเจ็บ แพ้แสง เวลาถูกแสงแดดจะมีปฏิกิริยามากกว่าปกติ มีผื่นรูปผีเสื้อสีแดงขึ้นที่บริเวณโหนกแก้มและจมูก มีอาการปวดข้อ บวมแดง ร้อน นอกจากนี้ยังมีอาการที่อวัยวะภายในอื่น ๆ เช่น หัวใจ ปอด ไจ และระบบประสาท

การวินิจฉัยและรักษา
การวินิจฉัยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ส่วนใหญ่แพทย์จะใช้จากประวัติของผู้ป่วยการตรวจร่างกายพบรอยโรคร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด ปัสสาวะ การตรวจเอ็กซเรย์หัวใจและปอด

สำหรับการรักษามีวิธีรักษาด้วยยา จะมียาลดการอักเสบของข้อ ลดการเจ็บปวด นอกจากนี้อาจจะมียาช่วยในการปรับการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้ทำงานเหมือนปกติมากยิ่งขึ้น ยากลุ่มนี้ ได้แก่ ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากดภูมิ

ส่วนการรักษาอื่นในผู้ทีมีอาการข้อปวดบวม ข้อติดขัด อาจจะมีการแช่ในน้ำอุ่น ขยับมือและขยับข้อในน้ำอุ่น ซึ่งทำให้ข้อนั้นลดความฝืด ลดความปวดได้ดีขึ้น

ข้อควรปฏิบัติในผู้ป่วย
ผู้ป่วยต้องรับประทานยาให้ครบตามแพทย์รักษา ไม่หยุด ไม่เพิ่มหรือลดขนาดยาเอง การถูกแสดงแดดจะกระตุ้นให้ผื่นผิวหนังเพิ่มมากขึ้น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การติดเชื้อในระบบต่าง ๆ รวมทั้งการตั้งครรภ์ สามารถทำให้โรคกำเริบได้ ควรตั้งครรภ์ในภาวะโรคสงบ เพราะหากตั้งครรภ์ในระยะโรคกำเริบ อาจมีผลต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ควรวางแผนครอบครัวกับแพทย์ผู้รักษาก่อนจะตั้งครรภ์

ขอขอบคุณ https://mgronline.com

Leave a Reply